Ⓒ 2009 FPSThailand. All Right Reserved. สังคมของข่าวสารวงการ e-Sports, รีวิวอุปกรณ์เล่นเกม, การแข่งขันและถ่ายทอดสด ทำจริง ลุยจริง คนจริง!! Contact us:
*เพิ่ม 2 เทคนิคลับอัพเดทรับ Covid 2021 อย่าง "Page ต่อ Page" และ "SEO ลูกโซ่" **ท่านที่ไม่ถนัด Video ก็ไม่มีปัญหา อันแรกใช้เพิ่มผู้ติดตามหลักพันในชั่วข้ามคืนแบบ "ตรงกลุ่มเป้าหมาย" และใช้ดึงความสนใจของ Sponsors อย่างรวดเร็ว, ส่วนอันหลังเหมาะกับฝั่ง Blog & Web และคนขายของ Online เพื่อยึดหน้าแรก Google โดยทั้งสองเทคนิคไม่ต้องใช้ความรู้ด้านคอมฯ!!! * แจ้งทราบ, ที่จริงก่อนหน้านี้ผมรับงานที่ปรึกษาเฉพาะองค์กรใหญ่แต่พักหลังมีท่านที่เป็นบุคคลทั่วไปและ SMEs ทำเรื่องนัดมาเยอะขึ้นๆ จึงเป็นที่มาของ Class ส่วนบุคคลอันนี้ เพราะปัจจุบันธุรกิจรายย่อยเองก็ "รู้แล้ว" ว่าชั่วโมงนี้ถ้าไม่ทำ Online คือ "ตายแน่" แต่ก็ไม่รู้จะ "เริ่ม" อย่างไร คือไม่รู้กระทั่ง "Facebook VS Blog ต่างกันตรงไหน? " หรือ "กลุ่มลูกค้าบน Instagram VS YouTube มันต่างกันอย่างไร? " และ "ต้องทำ Tiktok ด้วยรึเปล่า? " กับ อีกสารพัดคำถาม, โดยเฉพาะกับคนที่ "ไม่ถนัด Video" ผมจึงเปิด "นัดส่วนตัว" ขึ้นมา, พบหน้าเพื่อยิงคำถามกว้างๆ และช่วย "ดึงจุดเด่น" ของแต่ละคนแต่ละธุรกิจออกมาสร้างเป็น Character เพราะทุกวันนี้, สิ่งที่สำคัญสุดบน Online ก็คือ "คนต้องจำได้" ต้องมีจุดเด่น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมหลายๆ คนทำให้ตายก็ไม่ดัง, ไม่มีงานเข้าไม่มีผู้ติดตาม [หรือทำแล้วไม่คุ้มในแง่ธุรกิจ] ท่านที่ต้องการ " นัดส่วนตัว ", เดือนนี้ผมมีรับงาน COnsult หลักที่ Bitec และที่ The Emporium Tower [BTS บางนาและ BTS พร้อมพงษ์] กับ Packages ทั้ง 4 1.
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพก็ลดหย่อนภาษีได้ มนุษย์เงินเดือนที่บริษัทมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้นถือว่าดีมาก ๆ นอกจากจะเป็นเงินออมในอนาคตแล้ว ยังสามารถนำสิทธิประโยชน์มาลดหย่อนทางภาษีได้อีกด้วย แต่ทั้งนี้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพก็มีกฎเกณฑ์เช่นกัน อาทิ สิทธิประโยชน์นำไปลดหย่อนภาษีได้ตามจ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15% ของเงินเดือน และไม่เกิน 500, 000 บาท และต้องมีอายุของกองทุนไม่น้อยกว่า 5 ปีขึ้นไป ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วต้องเสียภาษีในกรณีถ้าต้องออกจากงานแล้วไม่ได้โยกไปลงทุนต่อนั่นเอง 4. เข้าใจระบบการคำนวณภาษี ขั้นตอนนี้ถือว่าเป็นปัญหาของมนุษย์เงินเดือนมือใหม่ด้วยกันทั้งสิ้น เพราะเราจะเห็นน้อง ๆ ที่เพิ่งเข้ามาทำงานไม่น้อยมักจะเกิดความสับสนในการคำนวณภาษี ซึ่งต้องทำการศึกษาในข้อมูลในดีว่า ในแต่ละปีนั้นรัฐบาลได้มีการสนับสนุนด้านใดทางภาษีบ้าง และข้อมูลเดิมที่มีอยู่นั้นต้องกรอกรายละเอียดตรงไหนบ้างสำหรับมนุษย์เงินเดือน ซึ่งคนกลุ่มนี้นั้นสิ่งที่ต้องคำนวณหลัก ๆ มาจากเงินได้สุทธิ ยิ่งมีเงินได้สุทธิเพิ่มมากขึ้นเท่าไร ก็ต้องจ่ายภาษีเพิ่มขึ้นตามสัดส่วน 5.
เรียนออนไลน์ [5588 บาท]: ท่านที่ไม่สะดวกเดินทาง, สามารถฟังเนื้อหารอบกลุ่มครั้งก่อนได้ในราคา 5288 บาทที่ 0322724497 [KBank] ชื่อบัญชี Chaiwat Chantasakuldetc แล้วกด " รับรหัสลับ " ได้ทันที [ฟังซ้ำได้] 2. นัดส่วนตัว [9988 บาท]: เพื่อสร้างตัวตน & แนวทางที่ชัดเจนสำหรับคนที่ ชีวิตยัง " หาตัวเองไม่เจอ …" [จะได้รับเนื้อหาออนไลน์ก่อนด้วย] เพราะปัจจุบันการแข่งขันบนโลก Digital ต้องมี "จุดเด่นให้จดจำ" 3. ปรึกษาธุรกิจ [13888 บาท]: เหมาะกับผู้บริหารและ SMEs ที่ต้องการขึ้นสู่โลก Online แต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มตรงไหน 4. * พิเศษ [32888 บาท]: สำหรับเจ้าของสินค้าที่ต้องการนัดพบพร้อม Review ลง Blog นี้เพื่อพลัง SEO ต่อด้วยการ Share ออก Social Networks!!! เนื้อหา: วิธี "สร้างตัวตน" บนโลกออนไลน์ด้วยการใช้ Blog ร่วมกับ Facebook / YouTube / TikTok และอื่นๆ ในฐานะ ผู้เขียนจริงที่มียอดเข้าชมรวมปีละ 46 ล้านครั้ง, มีรายได้ 8 หลักต่อปี [หลักฐานภาษีถูกต้อง] พร้อมกับเป็นที่ปรึกษาธุรกิจให้กับ Brand น้อยใหญ่ทั้งในและต่างประเทศดังภาพ [อ่าน Comments ของผู้นัดครั้งก่อนๆ ได้ที่ > Review] โดยไม่ต้องใช้คอมฯ / ไม่มีศัพท์เทคนิค / ไม่ต้องมีพื้นฐาน / เน้นสร้างรายได้ & ดึงความสนใจของ Sponsors และเพิ่มผู้อ่านในเวลาสั้นๆ View More
ในการทำ SEO ขั้นตอนหนึ่งที่ต้องทำทุกครั้งคือ หาคีย์เวิร์ดที่ต้องการทำอันดับ ซึ่งคีย์เวิร์ดยอดฮิตที่คนทำ SEO อยากทำอันดับ คือ High Commercial Intent Keyword เพราะเป็นคำที่ใช้โดยคนที่ต้องการสินค้าอยู่แล้ว จึงมีโอกาสสูงที่ผู้เข้าเว็บไซต์จะจ่ายเงินซื้อสินค้าหรือบริการจากเว็บไซต์ อย่างไรก็ตาม สำหรับสินค้าบางชนิด เว็บไซต์ที่อยู่ในผลการค้นหาหน้า 1 ของคีย์เวิร์ดดังกล่าว คืออีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อย่าง Lazada, Shopee, Priceza และอื่นๆ ทำให้คีย์เวิร์ดเหล่านี้มีการแข่งขันสูงและยากต่อการทำอันดับ คำถามคือ หากเราเป็นเว็บไซต์ขายของซึ่งไม่ได้มีทุนมหาศาลแบบคู่แข่ง จะมี วิธีการทำ SEO เพื่อสู้กับคู่แข่งอย่างไร? บทความนี้ จะแชร์เทคนิคการทำ SEO ในคีย์เวิร์ดที่แข่งขันสูง ซึ่งคุณสามารถนำไปปรับใช้เพื่อพัฒนาผลลัพธ์การทำ SEO ของคุณได้อย่างแน่นอน หลักวิธีการทำ SEO ในคีย์เวิร์ดที่แข่งขันสูง หลักการที่ใช้คือทำเว็บไซต์ให้ "แตกต่างและดีกว่า" คู่แข่ง หรือพูดอีกอย่างคือ คู่แข่งมีจุดอ่อนตรงไหน เราทำตรงนั้นให้ดีกว่า คุณอาจมีคำถามว่า เว็บไซต์อย่าง Lazada, Shopee จะมีจุดอ่อนได้อย่างไร คำตอบคือ ส่วนตัวคิดว่า ไม่มีอะไรในโลกสมบูรณ์ 100% เพราะเว็บไซต์ใหญ่แม้จะแข็งแกร่งในการทำ SEO ด้วยคีย์เวิร์ดที่เป็นคำหลัก แต่ก็มักจะไม่โฟกัส Niche Longtail Keyword 1.
คำว่า "SEO" เชื่อว่าหลายๆท่านที่ทำธุรกิจทางด้านออนไลน์อยู่ น่าจะต้องรู้จักกันทุกคนนะครับ ส่วนใครที่ยังไม่รู้จักขออธิบายง่ายๆดังนี้ครับ SEO คือ? SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimize( เห็นชื่อเต็มงงกว่าเดิม) จริงๆอธิบายง่ายๆ มันคือการทำให้เว็บไซท์ของเราขึ้นหน้าแรกๆบน Google นั่นเองครับ ทำไมต้อง SEO? เชื่อว่าทุกๆคนที่ทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ จะต้องมีความต้องการ ที่จะทำให้เว็บของเราค้นเจอได้ง่ายๆใช่ไหมละครับ เพราะยิ่งเจอง่ายเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสที่คนจะเห็นคุณมากขึ้น แล้วยิ่งคนเจอคุณมากขึ้นก็จะทำให้คุณมีโอกาสเพิ่มลูกค้าได้มากขึ้นยังไงละ เพราะฉะนั้น SEO นับว่าเป็นหัวใจหลักของการทำร้านบนโลกออนไลน์เลยละครับ ทุกคนล้วนแล้วแต่อยากขึ้นหน้าแรกกันทั้งนั้น งั้นเรามาดู 25 ข้อพื้นฐานว่าเจ้า SEO ดูที่อะไรบ้าง 1. ความเกี่ยวข้องของเนื้อหา Search engines( การค้นหา) จะพยายามหาสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เราหามากที่สุด ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น คุณพิมพ์คำว่า "ศรรามอายุเท่าไหร่" ตัว Google ก็จะแสดงอายุของศรรามขึ้นมาในทันที โดยที่ไม่ต้องเข้าไปในหน้าเว็บไซต์ให้ยุ่งยาก หรือคำถามอย่างเช่น "ร้านอาหารอร่อย พญาไท" Google ก็จะทำการแสดงร้านอาหารภายในละแวกพญาไทในทันที ละแวกร้านอาหารอร่อยที่ขึ้นมาในทันทีเมื่อเราพิมพ์หาใน Google เพราะฉะนั้นแล้วเราอาจจะลองเปลี่ยนตัว Keyword( คำ) ให้มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ลูกค้าน่าจะค้นหามากที่สุดดู ก็จะช่วยให้มีโอกาสที่คนจะค้นหาเราเจอได้ง่ายขึ้นเช่นกันครับ 2.
Authority Authority Website คือเว็บที่ Google มองว่าน่าเชื่อถือ เป็นเว็บที่มีผู้เยี่ยมชมเยอะ มากในทุกๆวัน ยกตัวอย่างเว็บใหญ่ๆ เช่น Sanook Pantip Thairath ซึ่งสรุปได้ว่าหากเราทำให้เว็บของเรามีผู้เข้าชมมากๆ ก็สามารถช่วยให้ SEO ดีได้เช่นกัน 8. คำอธิบาย Meta และหัวข้อ Tags จริงๆแล้วการแก้คำอธิบาย Meta ไม่ได้มีส่วนช่วยให้อันดับดีขึ้นเท่าไหร่นักหรอกนะ ( อ่าวแล้วจะบอกทำไม) แต่มันเพิ่มโอกาสที่คนจะมาเจอคุณต่างหากละ! เพราะฉะนั้นเราควรใช้เครื่องมือตรงนี้ก่อนปล่อยบทความของเราออกไป – คำอธิบาย Meta คือ? คำอธิบาย Meta(Meta descriptions) เป็นคำอธิบายสั้นๆที่จะอยู่ด้านล่างของ URL เวลาที่เราค้นหาใน Google กรอบสีแดงคือส่วนของ Meta descriptions ตัวอย่างภาพแก้ไข Meta description ใน WordPress การเขียน Meta Description แนะนำให้เขียน 156 ตัวอักษรและต้องมั่นใจด้วยว่า หัวข้อของบทความเรามีความเกี่ยวข้องกับ Meta Description ด้วย -Title Tags หน้าที่ของ title tags คือใช้ในการบอก search engines กับผู้เข้าชมเว็บไซต์ว่าเว็บของคุณเกี่ยวกับเรื่องอะไร? เอาไว้ทำอะไร? Keyword( ตัวหนังสือ)ที่เราพิมพ์ใน title tag จะโชว์ขึ้นมาเมื่อเรา ใส่ tag ที่ตรงกับคำที่มีคนค้นหา ตัวอย่างของ Title Tag เมื่อมีคนค้นหาเจอ ส่วน MakeWebEasy เมนูพวกนี้จะอยู่ในส่วนของ SEO สามารถอ่านต่อได้ที่นี่เลยครับ markup คุณสามารถเพิ่มข้อมูลของเว็บไซต์ของคุณได้ด้วย Schema markup เว็บไซต์ที่มีการใช้ Schema markup ยกตัวอย่างเมื่อหาอาหารอย่างนึง ถ้าสังเกตุดูดีๆจะมีเวลาที่ใช้ในการทำอาหารเพิ่มเข้ามาด้วย ส่วนรายละเอียดวิธีทำสามารถอ่านต่อได้ที่ 10.
คุณภาพของบทความ บทความของคุณบนเว็บตอนนี้มีคุณภาพดีพอไหม? บทความของคุณสามารถช่วยเหลือคนที่ประสบปัญหาได้หรือไม่?
ควรตั้งชื่อรูปทุกครั้ง คุณเคยใช่ไหมที่ค้นหาภาพใน google เพื่อนำภาพนั้นมาใช้หรือดู แน่นอนว่าภาพของเว็บไซต์คุณก็เช่นกัน คุณควรที่จะตั้งชื่อรูปของคุณให้มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งนั้นแล้วค่อย upload ลงบนเว็บไซต์ เพราะ มันสามารถช่วยให้ Google รู้จักภาพของเรา และคนทั่วไปก็จะสามารถค้นหาเจอได้ง่ายขึ้น 11.
Sitemap | แบค โฮ ไว โบ ร, 2024